Mr. Roots: ก่อนจะมาปลูกกาแฟ พี่จรูญทำอะไรมาก่อน
พี่จรูญ: ผมเคยปลูกชาอัสสัม แล้วก็เอาใบชามาทำเมี่ยงขายด้วย ครอบครัวผมทำอาชีพนี้กันมานานเกิน 50 ปีแล้ว
Mr. Roots: แถวนี้มีอะไรที่พี่ชอบบ้าง
พี่จรูญ: แถวนี้อากาศดี ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติ คนที่นี่ก็ใจดีด้วยนะ
Mr. Roots: อะไรที่ทำให้พี่เริ่มหันมาสนใจเรื่องกาแฟ
พี่จรูญ: ย้อนกลับไปตอนที่ยังปลูกชาอยู่ ผมว่าปลูกชานี่ยากนะ ท้าทายด้วย เพราะว่าต้องใช้พลังเยอะ แต่ทำรายได้ไม่พอใช้ จนวันหนึ่งผมได้ยินว่าที่หมู่บ้านในดอยสะเก็ดเขาเริ่มปลูกกาแฟกัน แล้วชาวสวนที่ปลูกก็มีรายได้มากกว่าปลูกชาเยอะ เพื่อนบ้านผมเขาก็เลยเริ่มปลูกบ้าง ผมก็เอาตามเขาด้วย เพราะผมรู้ว่าต่อให้ปลูกชาด้วย ขายเมี่ยงด้วย ก็ยังหาเงินได้ไม่พอส่งลูกๆ ไปโรงเรียน เลยอยากลองทำอย่างอื่นที่จะให้ผลตอบแทนมากกว่าที่ทำอยู่
Mr. Roots: กาแฟมีความหมายกับพี่จรูญอย่างไรบ้าง
พี่จรูญ: ความมั่นคง ผมคิดว่ากาแฟช่วยสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวเรา ทำให้มีช่องทางในการทำมาหากิน สร้างความสำเร็จ และสร้างชื่อเสียงด้วย
Mr. Roots: แล้วตัวพี่เองชอบกาแฟแบบไหน
พี่จรูญ: ผมชอบกาแฟสำเร็จรูป แบบที่มีครีมเทียมด้วยนั่นล่ะ แต่หลังๆ มานี่ ผมเริ่มหันมาชอบชงกาแฟของตัวเอง ไอ้การที่ได้ลองเมล็ดกาแฟที่ปลูกเองนี่ดีนะ เพราะช่วยให้ผมเข้าใจลักษณะเฉพาะและกลิ่นของมันมากขึ้น
Mr. Roots: ถ้าทุกวันนี้ไม่ได้ปลูกกาแฟ พี่จรูญคิดว่าตัวเองน่าจะทำอะไรอยู่
พี่จรูญ: ผมเป็นคนทำอะไรก็ทำเต็มร้อย ทุ่มเทเต็มที่ ก็เลยคิดว่าตัวเองคงทำงานใหญ่สักงานที่เปิดโอกาสให้ผมได้รู้จักคนนอกหมู่บ้านที่หลากหลาย และทำอะไรที่สามารถหารายได้เลี้ยงครอบครัวได้อย่างมั่นคง มันสนุกดีเหมือนกันเวลาได้คิดเล่นๆ ว่าเราจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ หรือคิดว่าวันหนึ่งผมอาจจะถูกล็อตเตอรีก็ได้ แต่ตอนนี้ผมขออยู่กับสิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุดในชีวิตจริงก่อน
Mr. Roots: พี่จรูญอยากฝากอะไรไปถึงลูกค้าของเราบ้างไหม
พี่จรูญ: ผมอยากให้รู้ว่า ผมดูแลกาแฟแต่แรก ตั้งแต่วันที่ปลูก จนถึงวันที่เอาไปแปรรูป เรียกว่าดูแลและใส่ใจทุกขั้นตอน เป้าหมายของผมคือการพัฒนาคุณภาพและรสชาติของกาแฟในไร่ให้ดีขึ้น ซึ่งผมเชื่อว่าเราสามารถทำตามเป้าหมายได้นะ ถ้าเราทำแบบทุ่มเททั้งหัวใจและจิตวิญญาณ
