fbpx

15.06.18

Pour Over

What you’ll need

  • 1. Coffee
  • 2. Grinder
  • 3. Dripper
  • 4. Filter paper
  • 5. Scale
  • 6. Kettle
  • 7. Server (to place a dripper)

Brewing time

2-3 mins

Background

ไม่ว่าคุณจะชงกาแฟดื่มเองที่บ้าน หรือนั่งดื่มตามร้าน การชงด้วยวิธีนี้จะทำให้คุณได้ใช้เวลาดื่มด่ำกับกาแฟที่ได้ ร้านของเราเลือกใช้ชุดชงรุ่น V60 เนื่องจากตัวถ้วยชงมีองศาที่เที่ยงตรง ซึ่งช่วยทำให้ได้กาแฟที่ดีขึ้น ได้รสชาติแท้จริงแบบไม่ปนเปื้อน โดนัท บาริสต้าของเรา รักการชงแบบดริป เธอบอกว่าวิธีนี้ทำให้กลิ่นรสชาติทั้งหมดของเมล็ดกาแฟนั้นๆ โดดเด่นโดยไร้การเจือปน นอกจากนี้ โดนัทยังมีความสุขกับการรินน้ำผ่านพวยกาชงลงไปยังกาแฟอย่างช้าๆ เพราะเป็นขั้นตอนที่ทำให้จิตใจสงบและมีสมาธิ ซึ่งนี่คือสิ่งที่เราต่างก็ต้องการ...จริงไหม

Step 1

บดกาแฟปริมาณ 20 กรัม ให้มีขนาดพอๆ กับเกล็ดน้ำตาลทราย

Step 2

วางกระดาษกรองหรือดริปเปอร์ลงบนถ้วยชง รินน้ำร้อนลวกให้ทั่ว

Step 3

เทกาแฟบดลงไปในกระดาษกรอง ค่อยๆ รินน้ำร้อนลงไปทีละนิด จนผงกาแฟชุ่ม ทิ้งไว้ 30 วินาที

Step 4

เทน้ำร้อนเพิ่มช้าๆ จนกระทั่งกาแฟหยดลงเหยือกถึง 260 มล.

Step 5

เมื่อยกดริปเปอร์ออก ก็ถึงเวลาเสิร์ฟและดื่มด่ำกับกาแฟ

Tips

การชงด้วยวิธีนี้ควรใช้กาแฟคั่วระดับอ่อน เพื่อให้ได้ลิ้มรสชาติที่เต็มเปี่ยมด้วยรายละเอียด และสัมผัสถึงโปรไฟล์อันซับซ้อนของเมล็ดกาแฟอย่างครบถ้วน

Trouble Shooting

1. ถ้ากาแฟรสชาติออกขมไป อาจเป็นเพราะบดกาแฟละเอียดเกินไป ให้แก้ในขั้นตอนการชง โดยรินน้ำลงไปยังกาแฟอย่างแผ่วเบากว่าเดิม พยายามรบกวนกาแฟให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

2. ถ้ากาแฟใสมาก อาจมาจากเมล็ดกาแฟที่บดหยาบเกินไป หรือเป็นเพราะจังหวะในการรินน้ำร้อน ควรรินอย่างช้าๆ ระหว่างน้ำซึมผ่านกาแฟนั้นไม่ควรใช้เวลาน้อยกว่า 1.45 นาที

3. ถ้ากาแฟไม่ค่อยๆ พองฟูขึ้นมาในขั้นแรกของการรินน้ำร้อน เป็นไปได้ว่ากาแฟที่ใช้อยู่เป็นกาแฟเก่า ควรเลือกซื้อกาแฟที่ผลิตใหม่ๆ (อย่างเช่นของเรา!) และลองลดปริมาณน้ำที่ใช้ลง

LEARN OTHER BREWING METHODS

https://rootsbkk.com/th/education/pour-over/

Thank you for subscribe

Thank you! We'll be in touch.

OKAY